Privacy Policy
เนื่องจาก บริษัท ไร่เลย์ อีโค่ ทัวร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความสำคัญในเรื่องการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล จากการใช้บริการเว็บไซต์ ทางการของ บริษัทฯ (https://www.railayecotour.com) และ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านที่บริษัท ได้รับนั้นจะถูกนำไปใช้ตรงตามความ ประสงค์ของท่าน และถูกต้องตามกฎหมายบริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายด้านการบริหารจัดการความ เป็นส่วนตัว และข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อ กำหนดหลักเกณฑ์การรวบรวม การจัดเก็บ การใช้ หรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ให้มี ความมั่นคงปลอดภัย และน่าเชื่อถือบริษัทฯ จึงประกาศนโยบายส่วนบุคคลของบริษัทให้ท่านได้รับทราบ ดังต่อไปนี้
- ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, ไอดีไลน์
- ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ อาทิ IP address, MAC address, Cookie ID
- ข้อมูลบันทึกต่าง ๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ของบุคคล อาทิ Log file, ข้อมูลจราจรทาง คอมพิวเตอร์
- ข้อมูลที่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลอื่นในอินเตอร์เน็ต
1. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน โดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวมรวมข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านจากขั้น ตอนการให้ บริการดังนี้
- จากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของบริษัทผ่าน browser’s cookies ของท่าน
- จากการที่ท่านติดต่อกับบริษัทตาม ช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ระหว่างบริษัท กับท่าน
- เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ๆ ของบริษัท ไร่เลย์ อีโค่ ทัวร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอใช้ บริการของท่าน
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการ ปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท
- เพื่อการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับ การบริการ การควบคุมคุณภาพ ของการให้บริการหรือการดูแลลูกค้า ให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
- เพื่อเป็นการจัดการเกี่ยวกับการบริการ หลังการขาย เพื่อให้ท่านได้ประโยชน์สูงสุด
- เพื่อการจัดทำการบริการทางดิจิทัล
- เพื่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการ ตลาดและการวิจัยตลาด
บริษัทฯ มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้ใช้บริการด้วยวิธีการตามกฎหมายและเป็นธรรม โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลเท่าที่ จำเป็นสำหรับการให้บริการทางอิเล็กทรอ นิกส์ตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัทฯ และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดยจะขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส์อื่นใด ก่อนทำการเก็บรวบ รวม เว้นแต่เป็น กรณีที่กฎหมายกำหนด และ/หรือในกรณีตามที่กำหนดไว้ใน นโยบายฉบับนี้ โดยบริษัทฯ จะรักษาข้อมูล เหล่านั้นไว้เป็นความลับ
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน การดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อให้ท่านได้รับ บริการที่ดี บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้ เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อปรับปรุงบริการ ให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อพัฒนามาตรฐาน ความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศในการ บริหารจัดการความเสี่ยง ตรวจจับ ป้องกัน กิจกรรมที่มีแนวโน้มในการละเมิดกฎหมาย ระเบียบการใช้งานที่เกี่ยวข้อง หรือข้อตกลง เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึง เพื่อติดต่อท่านผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ (SMS) อีเมล หรือไปรษณีย์ หรือผ่านช่อง ทางใด ๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ท่านทราบ หรือ ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล หรือสำรวจ ความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และการให้บริการของ บริษัทตามที่จำเป็น
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่บุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการเพิ่ม ประสิทธิภาพการให้บริการในด้านต่าง ๆ แก่ท่านมากยิ่งขึ้น หรืออำนวยความสะดวก อื่นใดแก่ท่านได้อย่างถูกต้องต่อเนื่องเพื่อให้ท่านสามารถทำธุรกรรมที่ท่านประสงค์ ได้สำเร็จลุล่วง โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าวนั้น บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และ มิให้ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคล นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของ การเก็บรวบรวม ข้อมูลส่วนบุคคลหรือ เปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่
- เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วน บุคคล และการขอความยินยอมไม่อาจ กระทำได้ในเวลานั้น
- เป็นไปเพื่อประโยชน์กับชีวิต สุขภาพ หรือ ความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ใช้บริการ ท่านอื่น
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการ ปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท
- เพื่อการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับ การบริการ การควบคุมคุณภาพของการ ให้บริการหรือการดูแลลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
- เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของ พนักงานสอบสวนหรือการพิจารณาคดี ของศาล
- เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลต่าง ๆ ตามที่ระบุด้านล่างนี้
- ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง บุคลากร ของบริษัทที่การปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ถือหุ้นของบริษัท
- พันธมิตรของกลุ่มบริษัท
- ที่ปรึกษาวิชาชีพต่าง ๆ ได้แก่ ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน ผู้ตรวจ สอบภายนอก
- ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่ให้บริการแก่บริษัท ได้แก่
- ผู้ให้บริการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลรวมถึงผู้ให้ บริการคลาวด์
- ผู้ให้บริการทางการตลาด ซึ่งรวมถึงผู้ให้ บริการในการจัดทำข้อมูลและสถิติด้วย
- ผู้ให้บริการงานโฆษณา งานประชาสัมพันธ์ และการติดต่อสื่อสาร
- ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบ และเครือข่ายชำระเงิน
- ผู้ให้บริการยืนยันตัวตนต่าง ๆ
- ผู้ให้บริการติดตามหนี้
- ผู้ให้บริการตรวจสภาพทรัพย์สิน
- ตัวแทนรับชำระเงิน
- สถาบันการเงินและบุคลากรภายนอก อื่นที่บริษัทใช้บริการเพื่อการให้บริการ แก่ท่าน
- บุคคลอื่นใดที่กฎหมายกำหนด ในกรณี ที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คำสั่งของหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มี หน้าที่กำกับดูแล หรือคำสั่ง ของหน่วยงานตุลาการให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจำเป็นต้องเปิด เผยข้อมูลส่วน บุคคลดังกล่าว
- ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่จากบริษัท ในกรณีที่บริษัทประสงค์จะโอนสิทธิ และ หน้าที่ของบริษัทนั้น รวมถึงการโอนกิจกรรม บางส่วน หรือทั้งหมด การควบรวมกิจการ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้น บริษัท บริษัทนั้น จำเป็นจะต้องเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านให้แก่ผู้รับโอน (รวมถึงผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้รับ โอน) โดยสิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนใน ส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะ เป็นไปตามนโยบายฯ ฉบับนี้ด้วย
- จัดเก็บในรูปแบบเอกสาร และ/หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
- จัดเก็บ ณ สถานที่ที่มีการจำกัดสิทธิการเข้าถึง/ เก็บไว้ใน Server / เก็บไว้บน Cloud ที่เป็นผู้ให้บริการของบริษัท
- ระยะเวลาเก็บข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้อง เก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลัง จากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็น ระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อ หมดความจำเป็นหรือสิ้นสุด ระยะเวลาดังกล่าว
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของระบบสารสนเทศตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001:2013 ในการป้องกันการเข้าถึง หรือการแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้วิธีการเข้ารหัสและ/หรือ ความปลอดภัยทางกายภาพที่เหมาะสมและมีการตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว รวมถึงใช้มาตรการเชิงบริหารจัดการที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับและความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทได้จำกัดสิทธิในการเข้าถึง หรือเข้าใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพียงบุคลากรของบริษัทที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการใช้บริการจากบุคคลและ/หรือนิติบุคคลภายนอกที่เข้ามาดำเนินการในนามของบริษัท ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความลับของข้อมูล และอาจถูกเลิกจ้างและดำเนินคดีทางอาญา หากฝ่าฝืนข้อกำหนดเหล่านี้
ท่านมีสิทธิเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่บริษัทร้องขอ และยินยอมให้บริษัทจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือไม่ก็ได้ เพียงแต่ท่านต้องรับทราบว่า การให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ครบถ้วนตามที่บริษัทร้องขอ หรือการไม่ให้ความยินยอม ในการ จัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลดังกล่าวอาจทำให้ท่านถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือส่งผล ให้บริษัท ไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้เลย หากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน
สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านต่อไปได้
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือขอให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่ เจ้าของข้อมูลเองหรือผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (หากข้อมูลดังกล่าว อยู่ในรูปแบบที่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้) รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านหากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูก ต้องท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน หรือเพิ่ม เติม ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิด ความเข้าใจผิด
สิทธิในการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ สามารถใช้ระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ หากท่านเพิกถอนหรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อ ไม่มี ความจำเป็นที่จะต้องประมวลผลตาม วัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้หรือเมื่อบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราวได้ หาก บริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จ จริง หรือตรวจสอบคำคัดค้านของท่าน นอกจากนี้ในกรณีที่ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านอาจขอให้ บริษัทระงับการใช้ข้อมูลดัง กล่าวแทนการลบหรือการทำลายก็ได้
สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุม ข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุ บางประการได้
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากข้อมูลนั้นบริษัท จัดเก็บโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน
บริษัทได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของ บริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ DPO ของบริษัทได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอ ดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ตามช่องทาง การติดต่อดังนี้
บริษัท ไร่เลย์ อีโค่ ทัวร์ จำกัดโทรศัพท์ : 099-1452-544 Website: https://www.railayecotour.com
ทั้งนี้ บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการ พิจารณาตามคําร้องของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคําร้องขอดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้า ของข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมาย กำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคล ถูกทำให้ไม่ปรากฏ ชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะ อันสามารถระบุตัวของเจ้าของข้อมูลส่วน บุคคลได้อีก